วันพุธที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ช่องปาก...อวัยวะน่ารู้

รู้เรื่อง ... ฟันของเรา
ทุกคนคงต้องยอมรับว่า "ปาก" เป็นอวัยวะที่มีความสำคัญต่อทุกชีวิต ในช่องปากมีอวัยวะที่สำคัญ คือ เหงือก ลิ้น กระพุ้งแก้ม เพดาน และลำคอส่วนต้น
ฟัน จัดเป็นอวัยวะที่แข็งแรงที่สุดในร่างกาย โดยมีความแข็งแรงมากกว่ากระดูก เป็นปวัยวะเดียวที่ไม่มีการเติบโต เพิ่มขนาด หรือเปลี่ยนแปลงรูปร่าง หลังจากขึ้นมาในช่องปากแล้ว แต่ฟันยังเป็นอวัยวะที่มีชีวิต รับความรู้สึก และเจ็บปวดได้ ถ้ามีการสึกกร่อน หรือทำลายชองเนื้อฟันลง
ฟัน ... มีความสำคัญต่อชีวิต ตั้งแต่เป็นฟันน้ำนม ที่เริ่มขึ้นในวัยเด็ก จวบจนเป็นฟันแท้ที่จะอยู่กับเราไปจนกระทั่งถึงวัยชรา ถ้าหากเราเอาใจใส่ดูแล รักษาความสะอาด ด้วยการแปรงฟัน และใช้ไหมขัดฟันอย่างสม่ำเสมอ ตลอดจนกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อฟัน หลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นโทษกับฟัน เช่น ขนมหวานเหนียวติดฟัน น้ำอัดลม เป็นต้น และที่สำคัญคือ ต้องใช้ฟันให้ถูกหน้าที่ คือ ฟันมีหน้าที่บดเคี้ยวอาหาร ช่วยในการออกเสียง และช่วยสร้างรอยยิ้มที่ประทับใจ และควรหาเวลาไปพบทันตแพทย์ เพื่อการบูรณะ และป้องกันความผิดปกติปีละครั้ง เพียงเท่านี้ เราก็จะมีสุขภาพฟันที่ดี
โครงสร้างของฟัน
แม้ว่าฟันจะมีรูปร่างและหน้าที่ต่างกัน แต่ส่วนประกอบในโครงสร้างของฟันแต่ละซี่ จะเหมือนกัน คือ
    ลักษณะภายนอกของฟัน แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ
  1. ตัวฟัน ... เป็นส่วนที่ขึ้นอยู่ในช่องปาก ส่วนที่โผล่พ้นเหงือก มองเห็นในช่องปาก
  2. รากฟัน ... เป็นส่วนที่ฝังอยู่ภายใต้เหงือก และกระดูกขากรรไกร มีเหงือกหุ้มทับ
    ลักษณะภายใน ... ถ้าผ่าฟันทั้งซี่ออกตามแนวยาว จะพบว่า ฟันไม่ได้เป็นแท่งตันหมด แต่จะแบ่งเป็นชั้นๆ ประกอบด้วย
  1. ชั้นเคลือบฟัน ... สีขาวใส เป็นชั้นที่อยู่นอกสุด จะหุ้มตัวฟัน เป็นส่วนที่แข็งที่สุด เพราะต้องทนต่อการสัมผัสกับอาหาร และความเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม ภายในช่องปากตลอดเวลา
  2. ชั้นเคลือบรากฟัน ... สีเหลือง แข็งแรงน้อยกว่าเคลือบฟัน คลุมเนื้อฟันเฉพาะส่วนรากฟัน
  3. เนื้อฟัน ... จะอยู่ถัดเข้ามา มีสีครีม ค่อนข้างเหลือง มีช่องทางติดต่อรับความรู้สึก จากปลายประสาทชั้นในสุดได้
  4. โพรงประสาทฟัน ... เป็นโพรงตรงกลาง เป็นแกนกลาง คล้ายไส้ดินสอ เป็นที่อยู่ของเนื้อเยื่อเส้นประสาท เส้นเลือด ท่อน้ำเหลือง และเซลที่จะสร้างเนื้อฟัน เส้นเลือดและเส้นประสาท จะแยกจากแขนงใหญ่ เข้ามาทางรูปเปิดปลายฟัน เป็นจุดสำคัญที่สุดในการรับความรู้สึก และความคงชีวิตของฟัน ดังนั้น ธรรมชาติจึงสร้างฟัน ให้มีความแข็งแรง เพื่อป้องกันชั้นนี้

ลักษณะของฟันแต่ละซี่
  1. ฟัน ตัด หรือฟันกัด : จำนวน 8 ซี่ ทางด้านหน้าล่าง 4 ซี่ ด้านบน 4 ซี่ รูปร่างคล้ายลิ่มบาง ทำหน้าที่กัด หรือตัด ช่วยในการออกเสียง และให้ความสวยงาม
  2. ฟันเขี้ยว : จำนวน 4 ซี่ บน 2 ซี่ ล่าง 2 ซี่ อยู่บริเวณมุมปาก ซ้าย-ขวา ปลายฟันค่อนข้างแหลม เป็นฟันที่แข็งแรงรากยาว ทำหน้าที่ฉีกอาหาร ช้วยรักษารูปทรงของใบหน้า บริเวณมุมปากไม่ให้บุ๋ม
  3. ฟันกราม : จำนวน 20 ซี่ บน 10 ซี่ ล่าง 10 ซี่ อยู่ถัดฟันเขี้ยวเข้าไปข้างใน แบ่งเป็นฟันกรามน้อย (ซึ่งไม่มีในฟันน้ำนม) 8 ซี่ และฟันกราม 12 ซี่ มีขนาดใหญ่กว่าฟันกลุ่มอื่น รูปร่างเกือบเป็นสี่เหลี่ยม มีหน้าตัด ซึ่งทำหน้าที่บดเคี้ยวอาหาร
อวัยวะปริทันต์
  1. เหงือก : เป็นเนื้อเยื่อที่คลุมบางส่วนของฟัน และกระดูกขากรรไกร ปกติมีสีชมพู หรือคล้ำ ตามสีผิว เนื้อแน่น ขอบบาง แนบไปกับคอฟันพอดี เหงือกที่อยู่ระหว่างซอกฟัน จะเต็มเป็นรูปสามเหลี่ยม ยอดแหลม ขอบเหงือกกับตัวฟัน จะมีร่องโดยรอบ ลึกประมาณ 1-2 มม.
  2. เนื้อเยื่อปริทันต์ : เป็นเนื้อเยื่อรอบรากฟัน ที่ยืดหยุ่นได้เล็กน้อย ทำหน้าที่ยึดรากฟันให้ติดกับกระดูกเบ้าฟัน และช่วยกระจายแรงบดเคี้ยว ไปยังกระดูกขากรรไกรด้วย
  3. กระดูกเบ้าฟัน : เป็นส่วนของกระดูกขากรรไกร ที่รากฟันฝังตัวอยู่ มีรูปร่างเว้าไป ตามลักษณะรากฟันแต่ละซี่
อวัยวะอื่น ที่เกี่ยวข้องกับการบดเคี้ยว
  1. ลิ้น : มีเล้นเลือด เส้นประสาท เป็นจำนวนมาก ไวต่อการรับสัมผัส มีตุ่มเล็กๆ สำหรับรับรส ช่วยกวาดรวมรวมอาหาร ให้ฟันบดเคี้ยวได้สะดวก และช่วยในการพูดออกเสียงด้วย
  2. ต่อมน้ำลาย : ต่อมขนาดใหญ่อยู่บริเวณใต้ลิ้น หน้าใบหู และใต้ขากรรไกร ส้วนต่อมเล็กๆ กระจายทั่วไป ในผนังช่องปาก ต่อมน้ำลายจะถูกกระตุ้นให้หลั่งน้ำลาย เฉลี่ยประมาณวันละ 1-2 ลิตร เพื่อช่วยรักษาความชุ่มชื้นแก่อวัยวะในช่องปาก และช่วยผสมผสานอาหารนุ่ม ลื่น พร้อมสำหรับการกลืน
  3. เยื่อบุช่องปาก : ได้แก่ เนื้อเยื่อบริเวณผนังของกระพุ้งแก้ม ริมฝีปากด้านใน ถ้ามีสภาพสมบูรณ์ จะช่วยให้การทำงานของอวัยวะอื่น ในขณะบดเคี้ยวมีประสิทธิภาพ
เรื่องของฟันเขี้ยว
ฟันเขี้ยว เป็นฟันที่มีความแข็งแรง เพราะมีรากฟัน 1 ราก ที่ยาวและใหญ่กว่าฟันซี่อื่นๆ ตำแหน่งของฟันเขี้ยว จะอยู่ที่บริเวณมุมปาก มีหน้าที่กัดและฉีกอาหาร รวมไปถึงการรักษารูปร่างของใบหน้า ให้มีมุมบริเวณริมฝีปากด้วย
คนที่มีฟันเรียงตัวไม่เป็นปกติ หรือที่เรียกว่าฟันเกนั้น อาจจะมีฟันซ้อนที่บริเวณฟันเขี้ยวได้ โดยมีลักษณะฟันมากระจุกอยู่หลายซี่ ทำให้ต้องเน้นการรักษาความสะอาดให้ดี เพราะถ้ามีการหมักหมม ของเศษอาหารเป็นประจำ ก็จะทำให้เกิดฟันผุได้ ถ้าฟันเขี้ยวเสียไป อาจทำให้ต้องถอน ก็จะทำให้ความแข็งแรงของฟัน ลดน้อยลงไปได้ด้วย
ฟันแท้ซี่แรกในช่องปาก
ในช่วงเวลาการขึ้นของฟันแท้ซี่แรก จะอยู่ในช่วงอายุประมาณ 6-7 ปี ซึ่งเด็กคงยังไม่สามารถตระหนักถึง การดูแลรักษาความสะอาดด้วยตนเองได้ พ่อแม่ต้องเป็นผู้ปลูกฝัง และพ่อแม่ควรจะมีความรู้ว่า ฟันแท้ซี่แรกที่ควรขึ้นเป็นซี่แรกในช่องปากของลูก ก็คือ ฟันกรามแท้ซี่ที่ 1 ซึ่งจะมี 4 ซี่ อยู่ที่ 4 ด้านของฟันในขากรรไกร
ฟันแท้ซี่แรกซี่นี้ จะขึ้นมาโดยไม่มีการแทนที่ฟันน้ำนม โดยจะขึ้นมาทางด้านหลังของฟันกรามน้ำนม ซี่สุดท้าย โดยถ้าลองนับฟันดู จะนับฟันน้ำนมได้ 20 ซี่ แบ่งเป็นฟัน 10 ซี่ และฟันล่าง 10 ซี่ ฟันส่วนที่เกินไปทางข้างใน ก็คือ ฟันแท้ หรือ ฟันกรามแท้ซี่ที่ 1 นั่นเอง
ฟันแท้ซี่แรกนี้ จะเป็นกรามแท้ที่แข็งแรงที่สุด ขนาดซี่จะใหญ่ที่สุด และมีรากฟันที่แข็งแรง ทำหน้าที่ช่วยในการบดเคี้ยวอาหารให้ละเอียด เพราะฉะนั้น ควรให้ความสนใจ ดูแลความสะอาดตั้งแต่ลูกยังเล็ก เพราะฟันแท้ขึ้นมานี้จะอยู่กับเราไปตลอดชีวิต
หน้าที่ของฟันน้ำนม
    ความสำคัญของฟันน้ำนม
  1. ใช้กัด ตัด และบดเคี้ยวอาหารให้ละเอียด
  2. ให้ความสวยงาม
  3. ช่วยออกเสียงให้ชัดเจน ที่นอกเหนือจากฟันแท้ คือ ช่วยให้การเจริญของขากรรไกร เป็นไปอย่างปกติ และกันที่ไว้ให้ฟันแท้ขึ้นมาแทนที่
    ผลเสียที่ฟันน้ำนมถูกถอนไป ่ก่อนกำหนด หรือหลุดช้ากว่ากำหนด
  1. ฟันล้มเอียงเข้าหาช่องว่าง ฟันแท้ตำแหน่งนั้นไม่สามารถขึ้นได้อย่างปกติ
  2. ฟันคู่สบยื่นยาว เกิดการสบฟัน การเคี้ยวผิดปกติ
  3. ฟันที่เหลือรวนเก แปรงฟันได้ไม่สะอาด เศษอาหารติดฟันง่าย
  4. พูดไม่ชัด เกิดปมด้อย
  5. ฟันซ้อนเก
ฟันของน้องหนู
เด็กๆ จะมีฟันขึ้นเมื่ออายุประมาณ 6 เดือน โดยมีฟันคู่หน้ากลางขึ้นมาก่อน ฟันในวัยเด็กนี้ เรียกว่า ฟันน้ำนม จะมีทั้งหมด 20 ซี่ แบ่งเป็นฟันบน 10 ซี่ และฟันล่าง 10 ซี่ ประกอบด้วยฟันหน้า ฟันเขี้ยว และฟันกราม ฟันน้ำนมจะขึ้นครบ 20 ซี่ เมื่ออายุประมาณ 2 ขวบครึ่ง และจะอยู่ภายในร่างกาย ตลอดไปจนกว่าฟันแท้จะขึ้นมาแทนที่ เพราะฉะนั้นเราจึงต้องรักษาฟันน้ำนมไว้ สำหรับใช้งานจนกว่าฟันแท้จะขึ้น
ฟันน้ำนมของเด็กจะมีขนาดฟันที่เล็กกว่าฟันแท้ เพราะรูปร่าง ขากรรไกร ใบหน้า ของเด็ก ยังเล็ก และจะเจริญเติบโตไปตามวัย ซึ่งเมื่อมีการพัฒนาการของร่างกายที่โตขึ้น พัฒนาการของฟันก็จะโตขึ้นตามมา โดยการมีรูปร่างฟันที่ใหญ่ขึ้นด้วย ทำให้ในเด็กที่มีการพัฒนา ของร่างกายล่าช้า หรือรูปร่างใบหน้าเล็ก อาจทำให้ฟันแท้ซี่ที่จะขึ้นมาดูมีขนาดใหญ่ ไม่เหมาะสมสภาพช่องปากที่เล็ก ก็จะทำให้การขึ้นของฟันแท้ มีความผิดปกติ เกิดการซ้อนเกของฟันได้
การดูแลรักษาสุขภาพช่องปากที่ดี จึงควรควบคู่ไปกับการรักษาสุขภาพร่างกายที่ดี ด้วยนะคะ และคำนึงถึงหลักโภชนาการ ก็จะทำให้พัฒนาการของร่างกายสมบูรณ์ และแข็งแรง
ฟันเขี้ยวซาว
ฟันเขี้ยวซาว เป็นสำนวนการเรียกฟันแท้ของภาคเหนือ หมายถึงฟันที่ขึ้นมา เมื่ออายุประมาณ 20 ปี ซึ่งฟันซี่นี้มักขึ้นมาผิดปกติ ได้แก่ ขึ้นมาไม่ได้บ้าง ขึ้นมาแล้วซ้อนเกบ้าง ขึ้นมาผิดตำแหน่งบ้าง แต่ก็ไม่ได้เป็นกับคนทุกคนนะคะ บางคนก็อาจขึ้นได้อย่างปกติก็ได้
แต่สาเหตุของการขึ้นผิดปกตินั้น มักเกิดจากปัญหาของช่องปาก ที่มีพื้นที่ให้ฟันขึ้นไม่เพียงพอ ขากรรไกรที่เล็ก ตำแหน่งท้ายฟันแคบ ทำให้ฟันซี่ที่ขึ้นมาหลังสุด ก็คือ ฟันกรามแท้ซี่ที่ 3 นี้ ไม่สามารถขึ้นได้อย่างเต็มที่ ตัวฟันเองก็จะหาทางดันตัวเองขึ้นมา ถ้าขึ้นมาได้ ก็อาจเป็นปกติ หรืออาจขึ้นมาซ้อนเก ถ้าขึ้นมาได้ก็อาจขึ้นมาเพียงบางส่วน หรือจมอยู่ในขากกรรไก เพราะขึ้นมาไม่ได้เลย
ปกติแล้ว ฟันที่ขึ้นมาคุด หรือซ้อนเก ควรรักษาด้วยการถอนฟันออก เพราะถ้าคงสภาพอยู่ ในช่องปากเช่นนั้นแล้ว ถ้ามีการรักษาความสะอาดได้ไม่ดีพอ ก็อาจเกิดการอักเสบของฟันได้
ฟันเกิน
บางครั้ง คนเราอาจมีฟันเกิน 32 ซี่ ซึ่งมีความเป็นไปได้ และมักเกิดมาจาก กระบวนการสร้างฟันที่ผิดปกติ มีหน่อของฟันเกิน ซึ่งมักเกิดจากมีการรบกวนอวัยวะภายในร่างกาย ขณะที่กำลังมีการสร้างฟัน ลักษณะที่มองเห็นในช่องปาก เช่น อาจมีฟันขึ้นมาตั้งแต่แรกเกิด ซึ่งฟันนี้ไม่มีความจำเป็นอะไร ถ้ามีปัญหากับสุขภาพเด็ก หรือแม่ เช่น ดูดนมแม่ไม่ได้ ก็อาจถอนออกไปก็ได้ หรือ กรณีฟันมีเกินมาแทรกระหว่างฟันหน้า กรณีนี้จะเกิดความไม่สวยงาม ต้องทำการตรวจสอบดูก่อนว่า ฟันซี่อื่นๆ มีอยู่ครบถ้วนหรือไม่ ถ้ามีครบควรรีบถอนออกทันที เพื่อที่ฟันซี่อื่นๆ จะได้ไปเรียงตัวตามตำแหน่งปกติ ไม่เช่นนั้น อาจต้องทำการรักษาช่วย ด้วยการจัดฟัน

ที่มา www.dental.anamai.moph.go.th/oralhealth/happysmile/dentalh/genteeth.html#teeth01

116 ความคิดเห็น:

  1. ฟันผุเพราะไม่ยอมแปรงฟัน

    ตอบลบ
  2. กินขนมจึงทำให้ฟันผุ

    ตอบลบ
  3. เราควรแปรงฟันวันละ 2ครััง ก่อนหลังอาหาร

    ตอบลบ
  4. เราควรแปรงฟันทุกวัน

    ตอบลบ
  5. เราควรแปรงฟันตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง

    ตอบลบ
  6. เราควรแปรงฟันทุกวันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง

    ตอบลบ
  7. ฟันสวยด้วยการแปรงฟัน

    ตอบลบ
  8. เราไม่ควรกินของหวานมากเกินไป

    ตอบลบ
  9. เด็กคุ้งวารี ฟันสวยด้วยตัวเรา
    คุ้งวารี ClassiC

    ตอบลบ
  10. เพราะกินขนมแล้วไม่ยอมแปรงฟัน

    ตอบลบ
  11. ฟันขาวสวยด้วยมือเรา

    ตอบลบ
  12. เพราะกินลูกอมมากเกินไป

    ตอบลบ
  13. เพราะกินลูกอมก่อนนอนทุกวัน

    ตอบลบ
  14. เพราะไม่รักษาฟันเท่าที่ควร

    ตอบลบ
  15. เพระาชอบอาหารที่มีน้ำตาลมากทุกวัน

    ตอบลบ
  16. เพราะกินของหวานมากเกินไป

    ตอบลบ
  17. เพราะกินขนมที่มีน้ำตาลมากเกินไปทำให้เกิดฟันผุ

    ตอบลบ
  18. เพราะกินอาหารไม่มีประโยชน์

    ตอบลบ
  19. เพราะน้องไม่แปลงฟันถึงฟันผุ

    ตอบลบ
  20. ถ้าเรากินอาหารที่มีประโยชน์ฟันของเราก็จะเเข็งเเรงเเละฟันก็จะไม่ผุ

    ตอบลบ
  21. เด็กฉลาด ฟันต้องสวยเเบบคลาสสิค

    ตอบลบ
  22. เราควรแปรงฟันทั้งตอนเช้าและก่อนนอนแล้วก็รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ทุกครั้ง

    ตอบลบ
  23. เราควรแปรงฟันให้ถูกวิธีฟันของเราจะได้สะอาด และควรรับประทานอาหารที่มีประโยชนต่อฟัน

    ตอบลบ
  24. ทำไม่ชัชชลฟันเหลือง

    ตอบลบ
  25. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  26. ฟันของเราใช้ในการบดอาหารถ้าเราไม่มีฟันเราจะกินอาหารได้อย่างไรเราจึงควรรักษาฟันให้สะอาด

    ตอบลบ
  27. ทำไมไอซ์ถึงฟันเหลือง

    ตอบลบ
  28. เราควรแปลงฟันหลังกินลูกอม

    ตอบลบ
  29. ทำไมแก๊บจึงเห็มปาก

    ตอบลบ
  30. ไม่ระบุชื่อ19 กรกฎาคม 2553 เวลา 23:12

    รักทามไมฟันขาวจริงเลยฮ่ะ
    จากคนเเอบชอบ ให........

    ตอบลบ
  31. ทำไมไอซ์ถึงปากเห็น

    ตอบลบ
  32. ไม่ระบุชื่อ19 กรกฎาคม 2553 เวลา 23:15

    เราควรแปรงฟัน

    ตอบลบ
  33. ทำไม่ชัชชลฟันเหลือง

    ตอบลบ
  34. ไม่ระบุชื่อ19 กรกฎาคม 2553 เวลา 23:17

    ทำมัยปอถึงฟันขาวจัง

    ตอบลบ
  35. ไม่ระบุชื่อ19 กรกฎาคม 2553 เวลา 23:18

    ปิยวัตร ทำมัยเอถึงฟันขาวจัง

    ตอบลบ
  36. ไม่ระบุชื่อ19 กรกฎาคม 2553 เวลา 23:19

    บุณรักษ์ ทำมัยเอถึงฟันขาวจัง

    ตอบลบ
  37. ไม่ระบุชื่อ19 กรกฎาคม 2553 เวลา 23:20

    สงกาน ทำมัย นพณัฐ ฟันขาวจังเลย

    ตอบลบ
  38. ไม่ระบุชื่อ19 กรกฎาคม 2553 เวลา 23:21

    ณัฐวุฒ ทำไมต้องเเปลงฟันดั๊ว

    ตอบลบ
  39. ไม่ระบุชื่อ19 กรกฎาคม 2553 เวลา 23:23

    กุลวัต ทำไมต้องเเปลงฟันดั๊ว ขี้เกียดเเปลงจังง

    ตอบลบ
  40. ไม่ระบุชื่อ19 กรกฎาคม 2553 เวลา 23:24

    กันยาทำไมฟันขาวจัง

    ตอบลบ
  41. ไม่ระบุชื่อ19 กรกฎาคม 2553 เวลา 23:26

    มฑทล ทามมัยต้องเเปรงฟันด้วยคับ ผมไม่อยากเเปรงอ๊คับ

    ตอบลบ
  42. กูลวัฒน์ ไม่แปรงฟัน

    ตอบลบ
  43. ไม่ระบุชื่อ19 กรกฎาคม 2553 เวลา 23:28

    สุรศักดิ์ ทามมัยไม่ยอมเเปรงฟัน

    ตอบลบ
  44. เพราะกินอาหารไม่มีประโยชน์

    ตอบลบ
  45. สิชอบกินขนมที่มีน้ำตาลมากเกินไปทำให้เกิดฟันผุ

    ตอบลบ
  46. เพราะกินลูกอมก่อนนอนทุกวัน ....

    ตอบลบ
  47. ปอ .เพราะกินลูกอมก่อนนอนทุกวัน ....

    ตอบลบ
  48. ไม่ระบุชื่อ19 กรกฎาคม 2553 เวลา 23:39

    ณัฐวุฒ ทำไมต้องเเปลงฟันดั๊ว

    ตอบลบ
  49. ไม่ระบุชื่อ19 กรกฎาคม 2553 เวลา 23:40

    ทำไมกันตาต้องดัดฟัน

    ตอบลบ
  50. ไม่ระบุชื่อ19 กรกฎาคม 2553 เวลา 23:41

    เพราะฟันเหยือน

    ตอบลบ
  51. ไม่ระบุชื่อ19 กรกฎาคม 2553 เวลา 23:43

    ทำไมนพณัฐถึงไม่ดัดฟัน

    ตอบลบ
  52. ไม่ระบุชื่อ19 กรกฎาคม 2553 เวลา 23:43

    ดัดไม่ได้เพราะฟันเหยือนเกินไปคับ

    ตอบลบ
  53. ไม่ระบุชื่อ19 กรกฎาคม 2553 เวลา 23:47

    ม.3 เเปรงฟันไม่ถูกวิธี

    ตอบลบ
  54. ไม่ระบุชื่อ19 กรกฎาคม 2553 เวลา 23:48

    ม.2 ไม่ใส่ใจรักษาฟัน

    ตอบลบ
  55. ไม่ระบุชื่อ19 กรกฎาคม 2553 เวลา 23:48

    ม.2 ไม่ค่อยรักษาฟันกัน

    ตอบลบ
  56. ทำไม่บุณรักษ์ชอบกินลูกอม

    ตอบลบ
  57. ไม่ระบุชื่อ19 กรกฎาคม 2553 เวลา 23:49

    นพณัฐ ทำไมชอบกินลูกอมจัง
    ทำให้ฟันผุนะ

    ตอบลบ
  58. ไม่ระบุชื่อ20 กรกฎาคม 2553 เวลา 00:07

    ปอ..ม2 ฟันผุเยอะจัง

    ตอบลบ
  59. เราควรกินอาหารที่มีประโยชน์

    ตอบลบ
  60. ไม่ระบุชื่อ20 กรกฎาคม 2553 เวลา 00:11

    ทำไม บอย.ม2ไม่ยอมแปรงฟัน

    ตอบลบ
  61. ทำไมบุญรักษ์ถึงชอบกินเค้กที่หว๊านหวาน

    ตอบลบ
  62. ไม่ระบุชื่อ20 กรกฎาคม 2553 เวลา 00:13

    เพราะขี้เกียจแปรงฟันมากๆๆๆๆๆ

    ตอบลบ
  63. ทำไมส้ม ม.3 ไม่ยอมแปรงฟัน

    ตอบลบ
  64. ไม่ระบุชื่อ20 กรกฎาคม 2553 เวลา 00:16

    ทำไมกันตา ฟันเหลืองมาก!

    ตอบลบ
  65. ทำไมปอ ม.3 กินขนมแล้วไม่ยอมแปรงฟัน

    ตอบลบ
  66. ไม่ระบุชื่อ20 กรกฎาคม 2553 เวลา 00:18

    สิ ม.2 ก้อม่ายยอมแปรงฟันเหมือนกาน

    ตอบลบ
  67. ไม่ระบุชื่อ20 กรกฎาคม 2553 เวลา 00:20

    สิ ม2 ฟันเหลืองมากๆๆ

    ตอบลบ
  68. ส้ม ม.3 ปากเหม็นม๊ากมาก

    ตอบลบ
  69. ไม่แปลงฟันและกินลูกอม

    ตอบลบ
  70. ไม่แปรงฟันและกิน

    ตอบลบ
  71. เพราะกินเส็จแล้วไม่แปรงฟัน

    ตอบลบ
  72. กินขนมที่มีน้ำตาล

    ตอบลบ
  73. กินลูกอมมากเกินเหตุแล้วไม่แปรงฟัน

    ตอบลบ
  74. กินขนมที่มีน้ำตาลมาก

    ตอบลบ
  75. ไม่ระบุชื่อ20 กรกฎาคม 2553 เวลา 02:24

    ม.2
    ทำไมทุกคนไม่ชอบเเปรงฟน

    ตอบลบ
  76. ไม่ระบุชื่อ20 กรกฎาคม 2553 เวลา 02:41

    ม.2
    อย่ากให้ทุกคนหันมาแปรงฟัน

    ตอบลบ
  77. ไม่ระบุชื่อ21 กรกฎาคม 2553 เวลา 02:17

    ม.2
    กินขนมที่มีน้ำตาลมาก

    ตอบลบ
  78. ไม่ระบุชื่อ22 กรกฎาคม 2553 เวลา 02:39

    ทำไมโต้ถึงฟันเหม็น

    ตอบลบ
  79. ไม่ระบุชื่อ22 กรกฎาคม 2553 เวลา 03:13

    ทำไมฟันเหลืองจังว่ะ

    ตอบลบ
  80. ไม่ระบุชื่อ22 กรกฎาคม 2553 เวลา 03:20

    ทำไมน้องมิ้นถ฿งฟันขาว

    ตอบลบ
  81. ไม่ระบุชื่อ22 กรกฎาคม 2553 เวลา 03:42

    ทำไมฟันเหลืองจังว่ะ

    ทำไมโต้ถึงฟันเหม็น

    ตอบลบ
  82. ไม่ระบุชื่อ22 กรกฎาคม 2553 เวลา 03:46

    ฟางทำไมฟันเหลือง

    ตอบลบ
  83. ไม่ระบุชื่อ25 กรกฎาคม 2553 เวลา 19:20

    ม.2

    ทำไมx-shot ถึงแจกของเยอะจัง

    ตอบลบ
  84. ไม่ระบุชื่อ25 กรกฎาคม 2553 เวลา 19:36

    ทำไมโต้ถึงฟันเหม็น

    ตอบลบ
  85. ไม่ระบุชื่อ25 กรกฎาคม 2553 เวลา 19:43

    ทำไมน้องถึงฟันเหลือง

    ตอบลบ
  86. ไม่ระบุชื่อ25 กรกฎาคม 2553 เวลา 19:54

    ทำไมฟันถึงเหม็น ถึงเหลือง ถึงผุ ถึงดำ ถึงX-SHOT

    แจกของ ถึงX-SHOT4 DOT A ADAY SF

    ตอบลบ
  87. ไม่ระบุชื่อ25 กรกฎาคม 2553 เวลา 19:55

    ไม่แปรงฟันและกิน

    ตอบลบ
  88. ไม่ระบุชื่อ30 กรกฎาคม 2553 เวลา 00:40

    ทำไมเราต้องแปรงฟันหลังกินข้าวทุกครั้ง จาก เด็กโรงเรียนวัดไผ่ล้อม

    ตอบลบ
  89. ไม่ระบุชื่อ30 กรกฎาคม 2553 เวลา 00:43

    ถ้าไม่แปรงฟันจะเกิดโรคได้กี่โรคค่ะ

    ตอบลบ
  90. ไม่ระบุชื่อ30 กรกฎาคม 2553 เวลา 00:45

    ถ้าแปรงฟันแล้วฟันจะสวยหรือไม่ จากเด็กไผ่ล้อมคนสวย

    ตอบลบ
  91. ไม่ระบุชื่อ30 กรกฎาคม 2553 เวลา 00:49

    ไม่แปรงฟันแล้วฟันจะสวยหรือไม่ จากเด็กไผ่ล้อม

    ตอบลบ
  92. ไม่ระบุชื่อ30 กรกฎาคม 2553 เวลา 00:51

    ถ้าไม่แปรงฟันแล้วเราจะยิ้มสวยหรือไม่

    ตอบลบ
  93. ไม่ระบุชื่อ30 กรกฎาคม 2553 เวลา 00:51

    ถ้าฟันผุจะยิ้มไม่สวยจริงหรือไม่ จากสาวน้อย

    ตอบลบ
  94. ไม่ระบุชื่อ30 กรกฎาคม 2553 เวลา 00:54

    คนมีฟันซ้อนจะสวยหรือไม่ จากเด็กไผ่ล้อม

    ตอบลบ
  95. ไม่ระบุชื่อ30 กรกฎาคม 2553 เวลา 00:56

    ถ้าฟันสวยจะยิ้มสวยจริงหรือไม่ จากสาวสวย วังไม้ขอน

    ตอบลบ
  96. ไม่ระบุชื่อ30 กรกฎาคม 2553 เวลา 00:56

    จิ๊บไผ่ล้อมฟันขาวสวยมาก จากเด็กไผ่ล้อม

    ตอบลบ
  97. ไม่ระบุชื่อ1 สิงหาคม 2553 เวลา 19:23

    เพื่อนของฉันและฉันฟันสวยมาก

    จาก เด็กไผ่ล้อม ที่โดนทิ้ง

    ตอบลบ
  98. ด.ญ.วรรณภา ลิ้นจี่ขาว1 สิงหาคม 2553 เวลา 19:32

    ฟันของเพื่อนฉันสวยมากเพราะแปรงฟันอย่างถูกวิธี
    จาก ด.ญ.วรรณภา ลิ้นจี่ขาว

    ตอบลบ
  99. ไม่ระบุชื่อ1 สิงหาคม 2553 เวลา 19:33

    ได้รับความรู้ดีมากค่ะ จาก ด.ญ.นฤมล นาคประเสริฐ เด็กไผ่ล้อม

    ตอบลบ
  100. ไม่ระบุชื่อ1 สิงหาคม 2553 เวลา 19:35

    ฟันของฉันขึ้นซ้อนจะทำอย่างไร
    จาก คนโดนทิ้ง

    ตอบลบ
  101. ไม่ระบุชื่อ2 สิงหาคม 2553 เวลา 00:31

    ข้าพเจ้าแปรงฟันถูกวิธีทำให้ฟันสวยมากเลย จาก ด.ญ. ปวีณา พ้นเวร เด็กไผ่ล้อม

    ตอบลบ
  102. ไม่ระบุชื่อ2 สิงหาคม 2553 เวลา 00:34

    ฟันของหนูสวยมากเพราะแปรงฟันถูกวิธี จาก ด.ญ.จารุวรรณ คำโภ

    ตอบลบ
  103. จิ๊บเด็กไผ่ล้อมฟันสวย

    ตอบลบ
  104. ทำไมต้องฟันเหยินด้วย

    ตอบลบ
  105. ไม่ระบุชื่อ4 สิงหาคม 2553 เวลา 22:21

    ขอบคุณที่ให้ความรู้นะค่ะ......จากด.ญ.ปวีณา แก้วหาวงศ์
    โรงเรียนวัดไผ่ล้อม

    ตอบลบ
  106. ไม่ระบุชื่อ5 สิงหาคม 2553 เวลา 21:32

    ขอขอบคุณค่ะ ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับฟันมากมายทั้งเรื่องเกี่ยวกับ
    ฟันของเรา โครงสร้างของฟัน ฯลฯ

    ตอบลบ
  107. ไม่ระบุชื่อ1 กันยายน 2553 เวลา 00:51

    ดีใจที่ได้ร่วมแสดงความคิดเห็นค่ะ.....จากด.ญ. มีนา ขันแก้ว
    ร.ร. วัดไผ่ล้อม

    ตอบลบ
  108. ไม่ระบุชื่อ1 กันยายน 2553 เวลา 00:56

    ดีใจมากค่ะที่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องฟัน
    ด.ญ.อรพินท์ เอนอิง

    ตอบลบ